การขอวีซ่าท่องเที่ยว ประเทศโรมาเนีย (How to apply travel visa to Romania)
*อัปเดทข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2558 (15/11/2015)ประเทศโรมาเนีย (Romania) เป็นหนึ่งประเทศในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับประเทศบัลแกเรีย เซอร์เบีย ฮังการี มอลโดวา และยูเครน และมีทะเลดำเป็นทางออกสู่ชายฝั่ง มีเมืองหลวงชื่อกรุงบูคาเรสต์
จากสถิติ คนไทยยังไปเที่ยวโรมาเนียไม่มากนัก เนื่องจากความลำบากในการเดินทางไปในอดีต และความนิยมในการท่องเที่ยวน้อย คนมักรู้จักโรมาเนียจากตำนานผีดูดเลือดแดรกคูล่ากันเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวไปยังประเทศโรมาเนียกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น เป็นประเทศในยุโรปที่มีค่าครองชีพไม่สูง อาจเทียบได้ใกล้เคียงกับบ้านเรา และชาวโรมาเนียนั้น ถือว่าเป็นชนชาติยุโรปที่มีมิตรไมตรีกับนักท่องเที่ยวมาก สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ความอันตรายในเรื่องของคนเร่ร่อน หรือชาวยิปซี โจรฉกชิงวิ่งราวหรือทำร้ายนักท่องเที่ยวลดน้อยลงกว่าเมื่อก่อนมาก สามารถเดินทางไปได้อย่างปลอดภัย เผลอๆอาจจะมากกว่าเมืองยอดนิยมอย่างปารีส หรือโรมด้วยซ้ำ
ที่สำคัญคือ โรมาเนีย เป็นประเทศคอมมิวนิสต์เก่าที่เพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน ยังไม่ถูกระบบทุนนิยมดูดกลืนมากนัก สิ่งก่อสร้าง ตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีความโดดเด่นมาก โดยได้รับอิทธิพลทั้งจากโรมัน ออตโตมัน และอารยธรรมลุ่มน้ำดานูบ นอกจากนั้นแล้ว ธรรมชาติก็ยังสมบูรณ์ โดยเฉพาะเทือกเขาคาร์ปาเตียน ( Carpithian) ที่มีความยาวกว่า 1,700 กิโลเมตร พาดเป็นแนวยาวจากยุโรปกลางมาทางตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเทือกเขาอยู่ในประเทศโรมาเนีย และนับเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีความหนาแน่นของประชากรสัตว์ป่าอย่างหมีสีน้ำตาล หมาป่าสีเทา เลียงผาชามัวส์ และแมวป่ามากที่สุดในยุโรป พื้นที่บริเวณเชิงเขา เป็นแหล่งน้ำพุร้อนและน้ำแร่จำนวนมาก และยังมีผืนป่าสมบูรณ์ที่ยังไม่ถูกรุกล้ำหรือครอบครองมากที่สุดในยุโรป มีพื้นที่มหาศาลกว่า 2,500 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนับเป็น 65% ของทั้งทวีปยุโรป พื้นที่ธรรมชาติอันสมบูรณ์จริงถือเป็นเสน่ห์ที่สำคัญของโรมาเนีย
การดำเนินการขอวีซ่าสำหรับเดินทางท่องเที่ยว มีขั้นตอนดังนี้
ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวไทย (ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย) ต้องทำการกรอกแบบฟอร์มการขอวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น(90วัน) ผ่านระบบอินเตอร์เนต โดยให้ผู้เดินทาง เข้าไปในเวปไซต์ http://evisa.mae.ro/home เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆจนแล้วเสร็จ รออีเมล์ตอบรับจากทางกงสุลสำหรับวันและเวลาของการนัดเพื่อยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ ที่สถานกงสุลโรมาเนีย ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 12 อาคารสิรินรัตน์ ถ.พระราม 4 ตรงข้ามกับตึกมาลีนนท์ หาง่ายมากครับ เอารถไปจอดโลตัสพระราม 4 แล้วเดินย้อนมานิดเดียว โดยเวลาทำการสำหรับการยื่นแบบขอวีซ่า จะเป็นวันอังคาร เวลา 14:00-16:00 และวันศุกร์ 9:30-12:30 เท่านั้น!! หรือข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://bangkok.mae.ro/en/node/397
การเข้าไปกรอกข้อมูลในเวปไซต์ http://evisa.mae.ro/home ก็ไม่ยาก เป็นภาษาอังกฤษ โดยข้อมูลที่ต้องกรอก ก็เป็นข้อมูลส่วนตัวปกติ และข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง โดยในครั้งแรกจะต้องทำการสมัครด้วยอีเมล์ก่อน แล้วรออีเมล์อัตโนมัติ ซึ่งจะส่งรหัสหมายเลขคำร้องขอวีซ่าของเรามาให้ ทีนี้เราจะสามารถล็อคอินเข้าไปกรอกข้อมูลวีซ่าโดยใช้หมายเลขคำร้องกับพาสเวิร์ดที่เราตั้งในตอนสมัคร หรือง่ายกว่านั้นเราก็กดลิงค์จากในอีเมล์ที่เราได้รับ ก็จะเปิดหน้าเวปไซต์เพื่อกลับมากรอกข้อมูลต่างๆจนครบสมบูรณ์ พร้อมกับอัปโหลดเอกสารที่จำเป็นในการยื่นคำขอไปบนเวปไซต์ อันได้แก่
- Valid Travel Document : หนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศโรมาเนีย และจะต้องมีหน้าว่างเหลือไม่ต่ำกว่า 2 หน้า
- Photographs : รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว ( 40x30มล) พื้นหลังสีขาว เห็นใบหน้าชัดเจน ถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน
- Accommodation : เอกสารแสดงการจองที่พัก หรือที่อยู่อาศัยที่จะไปพำนัก พร้อมที่อยู่และหมายเลขติดต่อที่ชัดเจน (ภาษาอังกฤษ)
- Travel Ticket : บัตรโดยสารเครื่องบิน หรือเอกสารข้อมูลการจอง
- Vehicle Supporting Documents : เอกสารเกี่ยวกับการเดินทางนอกเหนือจากตั๋วเครื่องบิน เช่น การเช่ารถ เป็นต้น (ถ้ามี .. ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องอัปโหลด)
- Travel Medical Insurance : ประกันค่ารักษาพยาบาล และการเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง ครอบคลุมไม่ต่ำกว่ารายละ €50,000 หรือประมาณ 2 ล้านบาท และต้องมีระยะเวลาครอบคลุมการเดินทางทั้งหมด บวก 1 วัน (เช่น ไป 12 วัน ต้องทำประกันครอบคลุม 13 วัน) (ภาษาอังกฤษ) **อันนี้ ต้องมีตั๋วเครื่องบินก่อน เพราะต้องระบุวันที่ความคุ้มครองจะครอบคลุม เราใช้ของนวกิจเป็นประจำ เพราะสะดวก และได้ไวมาก (ถ้าใครไม่มีที่ประจำลองโทรปรึกษา K.จิดาภา 083-6656466 เวลาทำการ)
- Means of Support : เอกสารรับรองทางการเงินจากธนาคาร หรือสเตทเมนต์ย้อนหลัง 6 เดือน โดยควรมีเงินคงเหลือแสดงไว้ล่าสุดไม่เกิน 30 วันก่อนวันยื่นคำขอ (วันที่อัปบุ๊คแบงค์ล่าสุดไม่เกิน 30 วันก่อนดำเนินการยื่นเรื่อง) และต้องมีเงินคงเหลือไม่ต่ำกว่าผลรวมจำนวนวันของการท่องเที่ยวทั้งหมด x €50 แต่ต้องไม่ต่ำกว่า €500 แปรจากเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลายื่นคำร้องขอวีซ่า (สมมติไปเที่ยว 12 วัน ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย €50x12=€600 เป็นต้น)
- Proof of Itinerary : เอกสารการจองการท่องเที่ยวจากบริษัทท่องเที่ยว หรือตารางการท่องเที่ยวที่กำหนดเอง โดยสอดคล้องกับการจองที่พักหรือที่พำนัก (ภาษาอังกฤษ)
เอกสารที่บอกทั้งหมดด้านบนนี้ จะต้องสแกนแล้วอัปโหลดเข้าไปในแบบฟอร์มทางอินเตอร์เนตในหน้าที่ 4 ของการกรอกวีซ่า จะมีปุ่มให้กดอัปโหลดไฟล์ตามชนิดที่ระบุเลย โดยจะต้องเป็นไฟล์ pdf , png หรือ jpg ที่ไม่เกิน 2MB
เมื่อกรอกข้อมูลจนครบทั้งหมดแล้วไม่มีตกหล่น (12 หน้า) ก็กดส่งยืนยัน เวปไซต์ก็จะแจ้งว่า เราได้ดำเนินการส่งคำร้องขอเรียบร้อยแล้ว ข้างล่างจะมีปุ่มให้กด download แบบคำร้องขอวีซ่าของเรา อย่าลืมโหลดก่อนที่จะปิดหน้าอินเตอร์เนตนะครับ เพราะจะกลับมาไม่ได้แล้วถ้าลืมโหลดไว้ก่อน แล้วปรี๊นท์ออกมาด้วย ต้องใช้ครับ
แล้วเราก็รอรับอีเมล์จากกงสุลเพื่อจะได้ทราบวันนัดยื่นเอกสารและสัมภาษณ์กันละ โดยอีเมล์แจ้งเตือนจะมาภายใน 3-5 วันทำการ พร้อมยืนยันวันและเวลานัดหมายมาด้วย ซึ่งถ้าเราไม่สะดวก เราสามารถเข้าไปเปลี่ยนวันและเวลาได้ตามที่มีว่าง โดยเข้าไปจากลิงค์ในอีเมล์ของเรา ใส่รหัสผ่านพร้อมพาสเวิร์ดแล้ว จะมีปุ่ม Re-Schedule อยู่ด้านล่าง กดตรงนั้นแล้วเลือกวันเองก็ได้ครับ
ทีนี้ก็มาถึงวันนัดจริงกันละ ต้องเตรียมอะไรบ้าง
- หนังสือเดินทาง พร้อมสำเนา 1 ใบ
- รูป 1 ใบ
- บุ๊คแบงค์ตัวจริงพร้อมสำเนาบุ๊คแบงค์ หรือสเตทเมนต์ตัวจริงที่มีตราประทับจากธนาคาร (ตามสะดวก) 1 ชุด
- เอกสารรับรองการทำงานจริง 1 ชุด หรือในกรณีเจ้าของกิจการ ให้ใช้ทะเบียนบริษัท เอกสารจดทะเบียนหุ้นส่วนฯลฯ ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด ทุกแผ่นทุกหน้า
- เอกสารยืนยันตารางการเดินทางท่องเที่ยว 1 ชุด
- สำเนาเอกสารยืนยันการจองตั๋วโดยสารที่ระบุวันเดินทาง 1 ชุด
- สำเนาเอกสารยืนยันการจองที่พักหรือที่พำนักระบุที่อยู่และหมายเลขติดต่อ 1 ชุด
- เอกสารเชิญจากคนท้องถิ่น (ถ้ามี) 1 ชุด
- ค่าธรรมเนียมการดำเนินการและค่าวีซ่า 2,400฿
- ใบคำร้องขอวีซ่า ที่เรา Download มา ปรี๊นท์ออกมาด้วย เอาไป 1 ชุด อย่าลืมเซ็นลายเซ็นที่ตรงกับพาสปอร์ตในช่องลายเซ็นขวาล่างสุดหน้าสุดท้ายด้วยนะ
*ใครที่เคยเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล แต่งงานมีคู่สมรส ให้นำเอกสารเหล่านั้นพร้อมสำเนาติดไปด้วย (เผื่อจนท.อาจจะขอดูเพิ่มเติม) และเอกสารทุกใบ ไม่จำเป็นต้องเซ็นสำเนาถูกต้อง เซ็นที่เดียวเฉพาะในใบคำร้องขอวีซ่าเท่านั้น !!
เมื่อเอกสารพร้อม ก็ไปที่สถานกงสุล ตามวันเวลาที่นัดได้เลยครับ และเนื่องจากสถานกงสุลมีขนาดเล็กมาก ไม่จำเป็นไม่ต้องไปก่อนเวลามากนัก ไปพอดีๆ เผื่อสักไม่เกิน 15 นาทีก็เกินพอ เพราะเดี๋ยวจะเข้าไปอัดกันแน่นเกิน (แต่จะว่าไป คนก็ไม่เยอะอยู่แล้ว )
วันที่เราไป (ศุกร์ 25/09/2015) เราได้คิวรอบเวลา 10:00 ตรง ส่วนเพื่อนเราที่จะไปเที่ยวด้วยกันได้เวลา 10:10 10:40 และ 11:00 ตามลำดับ
เมื่อกดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 12 (ถ้าจะเข้าห้องน้ำ เข้าข้างล่างเลยนะ ข้างบนไม่มี) เดินไปถึงหน้าประตู สังเกตธงชาติเอา จะมีออดให้กด จนท.จะมาเปิดประตูให้เราเข้าไปรอข้างใน แต่วันที่เราไป จนท.มายืนกวักมือเรียกให้เข้าไปพอดี ไม่ทันต้องกดออด ซึ่งด้านในเป็นออฟฟิศกงสุลขนาดประมาณ 30 ตารางเมตรเท่านั้น อบอุ่นมาก เราเข้าไปเกือบๆ 10:00 มีคนต่างชาติชาวเวียดนามมารอรับเล่มวีซ่ากัน 5-6 คน ไม่มีคนไทยเลย! ย้ำ!
เรานั่งรอสักพัก ก็จะมี จนท.สุภาพสตรี ประกาศเรียกชื่อเราเป็นคนแรก ให้เข้าไปตรงเคาน์เตอร์กระจก (มีช่องเดียว) พร้อมกับขอเอกสารเรา เราก็เอาเอกสารที่เตรียมมายื่นให้นางทั้งหมดเลย นางก็รับไปแล้วเรียบเรียง ตรวจสอบเอกสาร ระหว่างนั้นก็ชวนคุย ถามว่าเราไปเที่ยวเหรอ แล้วบริษัทที่เราจองแพกเกจไปด้วย (Dreamtrips) เป็นของประเทศอะไร นางไม่รู้จักแต่ทำไมเห็นคนไปกับที่นี่เยอะ แล้วก็ถามว่าไปกับใคร บอกเราว่าช่วงที่เราไปหนาวนะ และเรื่องทั่วๆไปอีกนิดหน่อย ก็ตรวจเอกสารเสร็จพอดี ไม่เกิน 5 นาทีแน่ๆอะ จนท.สุภาพสตรีท่านนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดภาษาอังกฤษได้ดี พร้อมบอกเราว่า โอเค เอกสารคุณครบถ้วน จะขอค่าธรรมเนียม 2,400฿ ด้วย เดี๋ยวเค้าจะออกใบเสร็จที่เป็นใบรับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าให้ วีซ่าจะได้ในอีก 1 สัปดาห์ คือเราไปวันศุกร์ที่ 29 กันยา ให้มารับเล่มวันศุกร์ที่ 2 ตุลา ก็ 1 สัปดาห์พอดี (จากการสอบถามจาก จนท.โดยมากจะไม่เกินนี้) เราก็จ่ายไป 2,400฿ ได้รับใบเสร็จที่เป็นใบรับเล่มมาด้วย พร้อมเซ็นลายเซ็นอีกรอบที่ใบรับนั่นละ ก็เป็นอันจบพิธี รวดเร็วมาก ง่ายมาก!!
*เราสามารถให้ใครมารับเล่มแทนเราได้เลย แค่เอาใบรับเล่มไปยื่น .. สบายเหอะ
**ในกรณีที่ไม่สามารถทิ้งเล่มหนังสือเดินทางไว้ที่สถานกงสุลได้ เช่น ต้องเดินทางในช่วงเวลาระหว่างรอรับวีซ่าพอดี เราสามารถขอ จนท.รับเล่มกลับออกมาใช้ก่อนได้ แล้วเมื่อถึงวันที่วีซ่าออก ก็ค่อยเอาเล่มมาแล้ว จนท.จะทำการติดวีซ่าลงในเล่มหนังสือเดินทางให้ในตอนนั้นเลย .. ใจดีมากเหอะ
สรุป.. ขั้นตอนการขอวีซ่าโรมาเนีย ไม่ยากเลย ขอแค่เอกสารชัดเจนครบถ้วนตามที่สถานกงสุลกำหนดไว้ จนท.ตรวจสอบแล้วตรงก็จบ เอกสารจริงบางตัวยังไม่ดูเลย เน้นหลักๆที่ตารางการเดินทางที่แน่นอน ชัดเจนตามที่กรอกผ่านอินเตอร์เนตไป แค่นั้นเอง อะไรขาดตกบกพร่อง จนท.ก็ช่วยเหลือดี ไม่มีดุหรือถามคำถามอะไรแบบสถานฑูตดุๆที่อื่น คือรวดเร็ว ราบรื่น ง่าย และใช้เวลาพอๆกับไปเปลี่ยนสมุดบัญชีที่ธนาคาร ประมาณนั้นเลยครับ
ทีนี้ก็ถึงวันนัดรับเล่ม ก็คือ 1 สัปดาห์ต่อมา เราก็ไปรับเล่มตามเวลาที่นัด คือ 11 โมง ซึ่ง เราสามารถไปรับเมื่อไหร่ก็ได้ตามเวลาทำการนับเริ่มต้นจากวันและเวลานัดแต่ไม่เกิน 30 วัน เราสามารถให้ใครไปรับเล่มให้ก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ ใบเสร็จค่าวีซ่าที่เราจ่ายไปแล้ววันที่มายื่นเอกสาร นั่นคือหลักฐานการรับเล่มนั่นเอง โดยไม่จำเป็นต้องมอบอำนาจอะไรทั้งสิ้นครับ
เมื่อไปถึงที่ทำการกงสุลที่เดิม ก็รอเจ้าหน้าที่เรียก เขาจะขานชื่อตามคิว แล้วเราก็ไปรับเล่มที่ช่องบริการ หนังสือเดินทางที่ผ่านการอนุมัติ ก็จะมีวีซ่าแปะอยู่เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ในกรณีที่คุณไม่ได้ทิ้งเล่มเอาไว้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะขอเอาเล่มไปแปะวีซ่าให้ ก็ใช้เวลาประมาณ 3-5 นาทีเท่านั้นก็รับเล่มกลับได้เลย
รายละเอียดทั้งหมด ก็มีเท่านี้เลยครับ เดี๋ยวมาต่อกันอีกครั้ง กับการแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวที่โรมาเนีย กลับมาเจอกัน ตามอ่านด้วยนะครับ ^^
อีกช่องทางในการติดตามเรื่องราวการเดินทางของเราที่ : Facebook Fanpage https://www.facebook.com/vacationrightaway
และถ้าหากใครมีข้อสงสัยอะไร ยินดีให้คำปรึกษานะครับ inbox มาเลย จะพยายามตอบกลับทุกเรื่อง แต่อาจจะช้าบ้างก็อย่าถือสานะ
•••••••••••••••••••••••••••••••••••
FYI
Q1 : ถ้ามีเชงเก้นวีซ่าแล้ว ยังต้องขอวีซ่าโรมาเนียมั้ย?
A1 : ปัจจุบันประเทศโรมาเนีย ยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเขตเชงเก้น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้เดินทางมีเชงเก้นวีซ่าระยะยาวในประเทศสมาชิกเชงเก้นมากกว่า 2 ประเทศขึ้นไป หรือมีเชงเก้นวีซ่าแบบมัลติเพิ่ลระยะยาวที่ยังไม่หมดอายุ สามารถเข้าประเทศโรมาเนียเพื่อท่องเที่ยวได้ตามจำนวนวันที่เหลือในเชงเก้นวีซ่านั้นๆแล้ว่ไมีเกิน 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวของโรมาเนียเพิ่ม
Q2 : วางแผนการเดินทางอย่างไรดี เพื่อไปยังประเทศโรมาเนีย?
A2 : ปัจจุบัน ยังไม่มีสายการบินใด ที่มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยัง สนามบิน Bucharest Henri Coandǎ International Airport ที่กรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย แต่สามารถเดินทางไปได้โดยการต่อเครื่องบินที่ประเทศในยูโรโซนได้หลายประเทศเช่น เยอรมัน ออสเตรีย อิตาลี เป็นต้น แล้วต่อสายการบินจากจุดหมายแรก ไปยังโรมาเนียอีกต่อ แต่ในกรณีนี้ ผู้เดินทางจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเรื่องการทรานสิทให้ดี เนื่องจากอาจต้องมีการทำวีซ่าเพื่อทรานสิทในบางประเทศ : ตัวอย่างเช่น ถ้าเดินทางด้วยการบินไทย (Thai Airways) จะต้องไปลงสนามบินแฟรงค์เฟิร์ตที่เยอรมัน แล้วต่อสายการบินทาโรม (Tarom) อีกต่อ เพื่อไปยังบูคาเรสต์ ผู้เดินทางจำเป็นจะต้องขอเชงเก้นวีซ่าประเทศเยอรมันเพิ่ม เพื่อทรานสิทที่สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต อย่างนี้เป็นต้น
Q3 : วิธีไหนที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังประเทศโรมาเนีย
A3 : สำหรับตัวแอดมินเองนะ แนะนำว่าให้เดินทางด้วยสายการบิน AeroFlot จากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK)ไปลงที่สนามบิน Sheremetyevo (SVO) ที่กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย แล้วพักที่นี่หนึ่งคืน และทรานสิทต่อไปยังสนามบิน Bucharest Henri Coandǎ (OTP) ที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนียในเช้าวันรุ่งขึ้น ด้วยเหตุผลหลายข้อ คือ
1. ราคาตั๋วชั้นเดินทางไม่แพง เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ราคาประมาณ 25,xxx-30,xxx บาท
2. เครื่องที่ใช้บินจากสุวรรณภูมิ ไปสนามบิน SVO เป็นเครื่อง 777-300ER ซึ่งมีขนาดใหญ่ นั่งสบาย มีจอทีวีทุกที่นั่ง มาตรฐานความปลอดภัยของสายการบิน AeroFlot ในปัจจุบัน จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก จากการที่เป็นสายการบินแห่งชาติของรัสเซีย ประเทศมหาอำนาจในยุคปัจจุบัน เพราะฉะนั้นก็สบายใจดี
3. ทรานสิทที่รัสเซีย ไม่ต้องใช้วีซ่า เพราะมีข้อตกลงยกเว้นให้คนไทย ประหยัดค่าเชงเก้นทรานสิทไปหลายพันเลย
4. เวลาเดินทางต่อเครื่องไม่เหนื่อยดี ออกจากประเทศไทยช่วงเช้าก็ไม่ต้องอดนอน (สายการบินอื่นๆออกกลางคืนหมดเลย) ใช้เวลาเดินทาง 9-10 ชม. เราจะถึงมอสโคว์บ่ายๆ หาที่พักในบริเวณสนามบินเตรียมเอาไว้ 1 คืน ราคาไม่แพง 2 พันนิดๆก็หรูหราใกล้สนามบินแล้ว (ระหว่างนั้น ยังสามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวในตัวเมืองมอสโคว์ได้ด้วย เพราะมีเวลาหลาย ชม. แล้วค่อยนั่งรถไฟกลับมาพักผ่อนสบายๆ) วันรุ่งขึ้นก็ค่อยเดินทางต่อไปบูคาเรสต์ในตอนเช้า ใช้เวลา 1:30 ชม. ก็ถึง จะได้มีแรงเที่ยวเต็มๆวันได้ ส่วนขากลับ เราไม่จำเป็นต้องหยุดค้างที่มอสโคว์อีก เพราะเวลาทรานสิทจะสั้นมาก สามารถต่อเครื่องกลับประเทศไทยได้เลย
หรือถ้าอยากไปสายการบินอื่นๆก็มีอย่าง Luffthansa / Austrian / Turkish ทุกสายต้องทรานสิท แต่จะเป็นการทรานสิทกับสายการบินเดียวกัน ก็สะดวกดี แต่จำให้ขึ้นใจเรื่องวีซ่าทรานสิตในบางประเทศ ก่อนตัดสินใจต้องหาข้อมูลดีๆนะครับ
⚠️ข้อมูลทั้งหมดในบลอค VRA เรียบเรียงและเขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงของแอดมินเอง แชร์ได้ บอกต่อได้ครับ แต่ขอสงวนสิทธิ์ ห้ามผู้ใดก็ตามทำการคัดลอกข้อมูลไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือการค้าทุกรูปแบบโดยไม่ได้รับอนุญาตนะครับ⚠️
ขอโทษนะคะตัวหนังสือลงสีแบบนี้อ่านไม่ได้เลยค่ะ รบกวนเปลี่ยนเป็นสีเข้มๆได้ไหมค่ะ
ReplyDeleteกำลังแก้ไขนะครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นสีนี้ได้ ทั้งๆที่ตอนทำใช้สีดำปกติ ขอบคุณที่ทักท้วงมานะครับ
Deleteสอบถามเรื่องทำวีซ่าคือ .... คือได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่โรมาเนียหน่งปี แล้วเค้าส่งตั๋วสำรองคือวันที่ 29 สิงหาคม แต่วันนัดรับ criminal record คือ 26 สิงหา และคิดว่าพอรับเสร็จก็จะไปทำวีซ่าเลยค่ะ ...แต่ประเด็นคือ ตั๋วสำรองคือวันที่ 29 แต่เราเพิ่งจะไปทำวีซ่าวันที่ 26 ซึ่งคิดว่าวรซ่าไม่ทันเสร็จแน่นอน ....พี่ว่าแบบนี้วีซ่าจะผ่านมั๊ยค่ะ ตอนนี้เครียดมาก เพราะติดต่อทางมหาลัยที่ออกตั๋วสำรองเค้าบอกว่าให้ใช้อันนั้นไปก่อน เค้าจะส่งตั๋วจริงหลังจากได้วีซ่าแล้ว ><
ReplyDeleteถามหน่อยค่ะถ้าจะไปเยี่ยมแฟนต้องทำวีซ่าอะไร และแฟนต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ReplyDeleteถามหน่อยค่ะถ้าจะไปเยี่ยมแฟนต้องทำวีซ่าอะไร และแฟนต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ReplyDeleteอยากทำวีซ่าโรมาเนียที่เข้าออกได้หลายครั้งและอยู่ได้ระยะเวลานานๆ ต้องขอเป็นวีซ่าตัวไหนดีคะ. แนะนำหน่อย
ReplyDeleteถ้าคนเชิญกับคนออกค่าใช้จ่ายให้คนละคน เราต้องทำจดหมายแบบไหนบ้างค่ะ
ReplyDeleteวีซ่าเยี่ยมเยือน..น่าจะง่ายสุด..กำลังวางแผนไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่โรมาเนียคะ
ReplyDelete